“แม่”ใบเลี้ยงเดี่ยว ไม่เดียวดายหากเข้าใจกัน
“แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง แม่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอ้ละ เห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล”ได้ยินเพลงนี้ทีไร ทำให้ใครหลายคนคิดถึงแม่ขึ้นมาเลยทีเดียว และเมื่อเราได้ยินเพลงนี้นั่นบ่งบอกได้ว่าเป็นสัญญาณให้รู้ว่าใกล้จะถึงวันสำคัญวันหนึ่งของลูกๆ ทุกคน นั่นคือ “วันแม่แห่งชาติ” วันที่แม่หลายคนถึงกับน้ำตาคลอเมื่อลูกแสดงออกถึงความรักที่มีต่อแม่ ซึ่งเป็นภาพที่ดูแล้วแสดงถึงความอบอุ่นของครอบครัว…
และหากพูดถึงครอบครัวที่อบอุ่นนั้น ก็ต้องมีทั้งพ่อ แม่และลูก แต่ครอบครัวไทยในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องอัตราการหย่าร้างหรือแยกทางกันของคู่สมรสมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะครอบครัว ที่มีลูกส่งผลให้ผู้ที่เป็นแม่ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง หรือที่เราเรียกว่า “ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว”(Single-Parent Families)
จากตัวเลขของครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวเมื่อปี 52 พบว่ามีมากกว่า 2.5 ล้านครอบครัว ซึ่งสาเหตุอันดับหนึ่งเกิดจากการหย่าร้าง รองลงมาคู่สมรสถึงแก่กรรม ที่สำคัญส่วนใหญ่กลายเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่วัยรุ่นและวัยเรียน และต้องดูแลบุตรเฉลี่ย 1-2 คน แน่นอนว่าด้วยสถานภาพของแม่เลี้ยงเดี่ยว ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตในทุกด้าน ระดับความเครียดที่สูงขึ้น สูญเสียความมั่นใจในชีวิต กังวลว่าตัวเองจะเลี้ยงลูกให้มีความสุขไม่ได้ ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายอีก ท้อแท้หมดหวังเหลือเกิน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว บอกกับเราว่า ในครอบครัวที่เป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ที่แม่จะต้องดูแลลูกเพียงลำพังนั้น หากมองกันจริงๆแล้ว ก็ไม่ต่างจากการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพราะก็สามารถให้ความรัก ความอบอุ่นแก่ลูกได้เหมือนกัน เพียงแต่ในคนคนเดียวต้องเป็นได้ทั้งแม่ ทั้งพ่อ ที่ดูแลลูกในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย การเรียน ชีวิตประจำวันและอื่นๆอีกมากมาย
“ในครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่นั้นก็ไม่ต่างจากครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว เพียงแค่เค้าสามารถแบ่งบทบาทหน้าที่กันในการดูแลลูกก็เท่านั้นเอง แต่พอในครอบครัวที่มีแม่ต้องมีทั้งสองบทบาท ก็เลยรู้สึกว่าการดูแลลูกคนเดียวมันเหนื่อยและหนัก ซึ่งจริงๆแล้ว หากเราค่อยๆ จัดการกับปัญหาแต่ละอย่างจนมันลงตัว ทุกอย่างมันก็จะดีขึ้นเอง แต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับอายุของลูกด้วย ถ้าเด็กเล็กและไม่มีคนช่วยดูแล ส่งผลให้แม่เริ่มเครียด เราก็ต้องหาคนช่วยดูแล รวมถึงแม่เองต้องปล่อยวางบางเรื่องอย่างไปบ้าง อย่าเก็บเอามาคิดมากไปทุกเรื่อง อย่าไปคาดหวังกับลูกจนเกินไป อย่าเลี้ยงลูกให้เป็นเรา ต้องเลี้ยงเขาให้เป็นเขาเอง และเมื่อไหร่ที่ลูกพอจะทำอะไรได้เอง ก็ปล่อยให้เขาทำบ้าง เพราะการที่ลูกช่วยเหลือตัวเองได้เร็วเท่าไหร่ ก็หมายความว่าเราก็จะเครียดน้อยลงเท่านั้น” ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าว
แต่ถึงอย่างไร การจะห้ามไม่ให้ผู้เป็นแม่รู้สึกเครียดเลย คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อเป็นเช่นนี้คุณแม่เองก็ต้องมีวิธีการผ่อนคลายหรือลดอาการเครียดของตนเองลงด้วยวิธีต่างๆ โดยผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวแนะนำกับเราว่า เวลาที่ไม่สบายใจหรือเครียดกับการดูแลลูกเพียงลำพัง เราก็ควรหาที่ปรึกษา พูดคุย เพื่อลดความกดดันลง เพราะถ้าเก็บไว้คนเดียว ก็จะยิ่งคิดอะไรไม่ออก จนทำให้เกิดความเครียดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก
“การได้ระบายอะไร ออกมาบ้าง ก็จะช่วยให้คุณแม่ลดความตึงเครียดลงมาได้ หรือไม่ก็หาเวลาว่างทำสิ่งที่ตนเองอยากทำ เช่น ไปทำผม ดูหนัง ฟังเพลง ซื้อของ โดยให้ลูกอยู่ในความดูแลของคนที่เราไว้ใจได้ เพียงสัก 2-3 ชม. รวมถึงรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ก็สามารถช่วยให้แม่อยู่ในอารมณ์ดีขึ้นได้” ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าว
ในมุมกลับกัน หากมองย้อนมาในมุมของลูกที่อยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวนั้น นางฐาณิชชา บอกต่อว่า สิ่งที่ลูกทุกคนควรทำให้เป็นของขวัญชิ้นล้ำค่าแก่แม่ คือ เป็นเด็กดี ช่วยเหลือตนเองและงานบ้าน แบ่งเบาภาระแม่ และแสดงความรักต่อแม่ทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะวันแม่เพียงวันเดียว แม่หลายคนอาจอยากบังคับให้ลูกเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ บางทีแม่อาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น แต่ก็อยากให้ลูกเข้าใจว่า การที่แม่ทำเช่นนั้นเป็นเพราะแม่รักลูก และที่สำคัญแม่เองก็ต้องแสดงความรัก ต่อลูกอย่างตรงไปตรงมา พูดคุยกันบ่อยๆ เพื่อเพิ่มสัมพันธภาพที่ดีระหว่างแม่กับลูกด้วย
ทั้งนี้ในวันแม่แห่งชาติปีนี้ นางฐาณิชชา ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว โดยเฉพาะที่มีแม่คนเดียวนั้น มีมากในสังคมบ้านเรา จึงอยากขอให้กำลังใจกับแม่ที่กำลังเลี้ยงลูกคนเดียว ให้มีกำลังใจในการดูแลลูกต่อไป ถึงแม้จริงๆ แล้วคงไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้ แต่ในเมื่อเป็นแล้ว ก็ต้องอยู่กับความจริง เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ อย่างมีสติ และที่สำคัญคุณสามารถขอคำปรึกษาที่มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว โทร.02-954-2346 -7 หรือ http://www.thaisingleparent.comเรายินดีให้คำปรึกษา
เห็นแล้วนะคะไม่ว่าครอบครัวจะมีพ่อ แม่ ลูก หรือจะมีแค่แม่กับลูก ก็สามารถมีความสุขได้ เพียงคุณใส่ใจ เข้าใจและมอบความรักให้กันทุกวัน แล้วคุณล่ะวันนี้บอกรักกันหรือยัง
เรื่องโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team Content www.thaihealth.or.th